การวางแผนครอบครัว
การวางแผนครอบครัวถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตครอบครัวที่ดีมีความสุข เพราะจะช่วยให้คู่รักสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงทิศทางที่จะดำเนินในอนาคต ทั้งในด้านความพร้อมที่เหมาะสมในการมีลูก รวมถึงความพร้อมด้านร่างกาย ความพร้อมด้านจิตใจ และสถานะทางเศรษฐกิจ
การวางแผนที่ดีจะช่วยให้สามารถเตรียมตัวสำหรับการตั้งครรภ์ และการเลี้ยงดูบุตรได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพของแม่ และลูกในระยะยาว เพราะการที่เด็กเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่พร้อม มีโอกาสที่ดีครอบครัวก็จะมีความสุขมากขึ้น เหมือนกับคำที่เคยได้ยินกันชินหู คือ “มีลูกเมื่อพร้อม” นั่นเอง
ทำไมการวางแผนครอบครัวถึงสำคัญ ?
การวางแผนครอบครัวที่ดีต้องเกิดจากการตัดสินใจร่วมกันระหว่างคู่รักในการมีลูก โดยคำนึงถึงความพร้อมในทุกด้าน ทั้งร่างกาย จิตใจ และเศรษฐกิจ ซึ่งมีองค์ประกอบหลายอย่างดังนี้
1. ภาระทางการเงิน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเลี้ยงดูลูกแค่คนเดียวต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูง หากพ่อแม่ยังไม่พร้อมอาจต้องแบกรับภาระทางการเงิน ทำให้เกิดความเครียด และคุณภาพชีวิตลดลง การขาดการวางแผนทางการเงินนำไปสู่การกู้ยืมเงิน หรือการต้องลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดูแลลูก
2. ปัญหาในชีวิตคู่ การมีลูกโดยไม่ได้วางแผนอาจทำให้เกิดความขัดแย้ง และปัญหาในชีวิตคู่ได้ ทั้งนี้เพราะทั้งคู่ต้องปรับตัวเข้าหากันในบทบาทใหม่ ความเครียดจากการเลี้ยงดูลูก การแบ่งหน้าที่ไม่ลงตัว และการมีเวลาร่วมกันน้อยลงอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ห่างเหิน
3. ความเครียดและความกังวล พ่อแม่ที่ยังไม่มีความพร้อมอาจรู้สึกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของลูก รวมถึงความสามารถในการเลี้ยงดูลูกให้เติบโตเป็นคนดี อาจเพิ่มความเครียดในชีวิตประจำวัน
4. ผลกระทบต่อการศึกษาและอาชีพ การมีลูกเมื่อยังไม่พร้อมอาจทำให้พ่อแม่ต้องหยุดเรียนหรือทำงาน ทำให้โอกาสในการศึกษา และพัฒนาตนเองลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่วัยรุ่นที่อาจต้องหยุดเรียนเพื่อต้องเลี้ยงดูลูก หรือต้องเสียโอกาสในการก้าวหน้าในอาชีพ
หากไม่มีการวางแผนครอบครัวจะมีผลกระทบต่อลูกน้อยอย่างไร
การมีลูกเมื่อยังไม่พร้อมส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของลูกน้อยโดยตรง ทั้งในด้านพัฒนาการล่าช้า สุขภาพไม่แข็งแรง รวมถึงปัญหาพฤติกรรมการขาดความรักความอบอุ่น และปัญหาการเรียนรู้เพราะสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ ทั้งหมดนี้อาจเป็นปัญหาผลกระทบที่มีต่อลูก
แนวทางการวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิด
การคุมกำเนิดเป็นวิธีที่ช่วยให้คู่รักสามารถวางแผนการมีลูกได้อย่างเหมาะสม การเลือกวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยปัจจุบันการคุมกำเนิดมีหลากหลายวิธี แต่ละวิธีก็มีความเหมาะสมแตกต่างกันไป และมีข้อเสียและหรืออาการข้างเคียงต่างกันไป ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรในการเลือกการคุมกำเนิดที่เหมาะกับแต่ละบุคคล หากพิจารณาตามลักษณะการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน อาจพิจารณาได้ดังนี้
1. ยาคุมกำเนิด คือยาที่ใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากกว่า 90% โดยปัจจุบันมีหลายประเภท เช่น
1.1 ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด: ออกฤทธิ์ป้องกันการตกไข่ มีทั้งแบบ 21 เม็ด 24 เม็ด 28 เม็ดประสิทธิภาพดีเมื่อรับประทานอย่างต่อเนื่องสม่ําเสมอ
1.2 ยาฉีดคุมกำเนิด: ฉีดทุก 1-3 เดือน ป้องกันการตกไข่ ไม่ต้องทานยาเป็นประจำ
1.3 ยาฝังคุมกำเนิด: ฝังใต้ผิวหนัง มีประสิทธิภาพยาวนาน 3-5 ปี ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดี ไม่ต้องทานยาหรือฉีดยาเป็นประจำ
2. ถุงยางอนามัย คืออุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ป้องกันการตั้งครรภ์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างดี โดยมีข้อดีคือ ป้องกันการตั้งครรภ์ โดยป้องกันน้ําอสุจิเข้าสู่ช่องคลอด สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น HIV ซิฟิลิส และหนองใน โดยต้องเลือกขนาดที่เหมาะสมและสวมใส่อย่างถูกวิธีเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดถุงยางอนามัยเลื่อนหลุดหรือฉีกขาด
3. ห่วงอนามัย คืออุปกรณ์ที่ใส่เข้าไปในมดลูกเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ มีประสิทธิภาพสูงป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ต้องดูแลบ่อย บางชนิดสามารถใช้ได้นานถึง 5-10 ปี การใส่และการถอดห่วงอนามัยคุมกําเนิดต้องทําโดยแพทย์ โดยมีสองประเภทหลัก
3.1 ห่วงอนามัยที่ไม่มีฮอร์โมน: มีส่วนประกอบของลวดทองแดงออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์
3.2 ห่วงอนามัยที่มีฮอร์โมน: ปล่อยฮอร์โมนเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์
4. หมวกครอบปากมดลูก เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันการตั้งครรภ์ โดยจะใส่เข้าไปในช่องคลอดก่อนมีเพศสัมพันธ์ และใช้ร่วมกับเจลฆ่าเชื้ออสุจิ ซึ่งข้อดีคือ ใช้ได้หลายครั้ง และไม่ต้องใช้ทุกวันแต่ต้องใช้ร่วมกับเจลฆ่าเชื้ออสุจิเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ขั้นตอนการใส่อาจมีความยุ่งยาก
5. การทำหมัน คือวิธีคุมกำเนิดชนิดถาวรที่มีประสิทธิภาพในการคุมกําเนิดสูงถึง 99% โดยแบ่งออกเป็นการทำหมันชายและหญิง
5.1 การทำหมันหญิง: ผูกหรือตัดท่อนำไข่ ทำให้ไข่ไม่สามารถเดินทางไปยังมดลูกได้
5.2 การทำหมันชาย: ผูกหรือตัดท่อนำอสุจิ ทำให้อสุจิไม่สามารถออกมาเจอกับไข่ได้
การเตรียมตัวก่อนเลือกวิธีคุมกำเนิด
เพราะฉะนั้นการเลือกวิธีคุมกำเนิดเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อชีวิต และคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนครอบครัว ป้องกันโรค หรือแม้แต่สุขภาพร่างกายเอง การตัดสินใจเลือกวิธีคุมกำเนิดจึงไม่ควรมองข้ามการปรึกษาแพทย์ และศึกษาข้อมูล เพราะฉนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงหลัก ๆ เลยคือ อายุและสุขภาพ การวางแผนในอนาคต และการพูดคุยกับคู่รัก เพื่อให้การตัดสินใจเป็นเรื่องที่ทั้งคู่เห็นตรงกัน หลังจากเลือกวิธีการคุมกำเนิดได้แล้วสิ่งไม่ควรมองข้ามเลยคืออาการ และผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น หากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที
การเลือกวิธีคุมกำเนิดเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ ควรปรึกษาแพทย์ และการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพราะจะช่วยให้เลือกวิธีที่เหมาะสมมากขึ้น แค่นี้ก็สามารถวางแผนครอบครัวรวมถึงการมีบุตรได้อยากถูกต้อง และถูกวิธีเพื่อให้ครอบครัวมีความสุขในอนาคต