อาการที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ หรือเป็นตัวที่แสดงให้เห็นถึงปัญหาสุขภาพที่กำลังเกิดขึ้นได้ เช่น การตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ มีเนื้องอก เกิดติ่งเนื้อ การติดเชื้อ หรืออาจจะรวมไปถึงการที่ฮอร์โมนผิดปกติ และร้ายเเรงกว่านั้นอาจจะเเสดงถึงโรคมะเร็งปากมดลูก ที่หลายๆ คนกังวลว่าจะเกิดขึ้น

“เมนส์ไม่มา 1 เดือน” หนึ่งในปัญหาสุขภาพผู้หญิงที่หลายคนประสบพบเจอบ่อย แต่ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องผิดปกติใด เพราะบางครั้งประจำเดือนก็อาจจะมาช้าบ้างมาเร็วกว่าปกติบ้าง ขาดหายไปบ้าง แต่ไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน จึงไม่เคยค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการ “เมนส์ไม่มา 1 เดือน” นั้นสามารถบ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพภายในของผู้หญิงอย่างไรบ้าง

สิ่งที่เพศหญิงทุกคนเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ หรือช่วงอายุประมาณ 10 - 13 ปีต้องเจอเป็นประจำทุกเดือนคือการมีประจำเดือน หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า "เมนส์"

ชีวิตวัยรุ่นเป็นวัยที่เพื่อนมักจะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิดเสมอ การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในวัยหนุ่มสาวเองก็มีผลต่อการคบหาเพื่อนหรือการมองหาคนรัก การหาคู่ก็ทำได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว เมื่อการตัดสินใจหรือเข้าถึงสิ่งต่างๆทำได้ง่าย ปัญหาต่างๆก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆเช่นเดียวกัน เหมือนที่เราสามารถพบเห็นคุณแม่วัยใสได้เยอะขึ้นในสังคม อาจเกิดเพราะความพลาดพลั้ง หรือการไม่รู้จักวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมเกิดเป็นปัญหาตามมาในภายหลัง

ปัญหาเด็กที่ท้องในวัยเรียน ท้องไม่พร้อม หรือตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ส่วนหนึ่งมาจากการดิ้นรนพยายามประกอบอาชีพเอาชีวิตรอดทำให้ครอบครัวมีเวลาใส่ใจกันน้อยลง รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้การติดต่อสื่อสารกันของวัยรุ่นเป็นเรื่องง่าย จึงเป็นช่องทางให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นได้

ถ้าคุณเป็นคนที่ประจำเดือนมาตรงเวลาทุกๆ เดือน แล้วเกิดปัญหาประจำเดือนขาด ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากปัจจัยปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น มีความเครียดการจากทำงาน หากแต่ก่อนหน้านี้มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันและคุณเกิดความสงสัยว่าอาการประจำเดือนขาดอาจเกิดจากการตั้งครรภ์ ในบทความนี้เราจึงมาแนะนำข้อมูลดีๆ ที่เกี่ยวกับการทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเองอย่างถูกวิธีและถูกเวลา

"ท้องไม่พร้อม" หนึ่งในปัญหาที่ไม่คาดคิด ที่อาจส่งผลถึงอนาคตรวมถึงความฝันที่วางแผนไว้อาจสลายไปในพริบตา ปัญหาที่เกิดจากการพลาดพลั้งหรืออารมณ์ชั่ววูบที่สามารถพรากช่วงเวลาของวัยเยาว์และวัยสาวของผู้หญิงทุกคนไปได้ เเละใต้สภาวะที่กดดันอาจนำมาซึ่งสาเหตุของการตัดสินใจในการแก้ปัญหาอย่างผิดวิธี นั่นก็คือ

การตั้งครรภ์จะเกิดขึ้นได้เมื่ออสุจิเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ ดังนั้นสำหรับคู่ชีวิตที่ต้องการมีบุตร การวางแผนที่ดีนับว่ามีความจำเป็นมาก การนับวันไข่ตกก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนดังกล่าวเช่นกัน

หลายๆ คน อาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการคุมกำเนิดแบบ หน้า 7 หลัง 7 หรือ เคยเลือกใช้วิธีการคุมกำเนิดวิธีดังกล่าวมาแล้ว แต่จริงๆ แล้ววิธีดังกล่าวไม่ได้สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%

การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด (Oral Contraceptive) ถือเป็นการคุมกำเนิดชั่วคราวระยะสั้น หาซื้อง่าย มีประสิทธิภาพสูงหากรับประทานอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ ยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ หากว่าทานไม่ถูกวิธีแล้วก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียได้

กระบวนการฝังยาคุม ใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้นในการฝังยา เริ่มจากการฉีดยาชา จากนั้นจึงระบุตำแหน่งที่จะฝังบริเวณต้นแขนด้านในระหว่างรักแร้กับข้อศอก ในปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝังยาคุมแทนการฝังด้วยมือ ประกอบกับตัวแท่งยาเองก็มีการพัฒนาให้มีขนาดเล็กทำให้ช่วยลดอาการระคายเคืองหลังการฝัง

หลังจากการกินยาคุม หลายคนเกิดอาการ คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย ฯลฯ อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดจากผลของฮอร์โมนในยาคุมที่มีต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยผลที่เกิดขึ้นมีความแตกต่างไปในแต่ละบุคคล ส่งผลให้พบอาการที่แตกต่างกันไป ดังนี้

โดยปกติผู้หญิงจะมีประจำเดือนทุกๆ 21-35 วัน หรือบวกลบไม่เกิน 7 วัน หากมาเร็วหรือช้ามากกว่านี้อาจจะเกิดความผิดปกติของร่างกายหรือเป็นโรค เช่น โรคอ้วน ความเครียด ต่อมใต้สมองผิดปกติ ต่อมหมวกไตผิดปกติ โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ เกิดเนื้องอกในรังไข่ ไข่ไม่ตก เป็นต้น