สีของประจำเดือนและปริมาณประจำเดือนถือเป็นเหมือน “ภาษากาย” อย่างหนึ่งที่ร่างกายสื่อสารถึงสุขภาพภายในอย่างเงียบ ๆ แต่ชัดเจนกว่าที่หลายคนคิด การเปลี่ยนแปลงของประจำเดือนสามารถสะท้อนถึงสภาวะของฮอร์โมน ระบบไหลเวียนเลือด รวมไปถึงสุขภาพของมดลูกและช่องคลอดได้ สีที่แตกต่างกันในแต่ละรอบเดือนอาจบอกลักษณะที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมถึงความผิดปกติบางอย่างที่ซ่อนอยู่

เราสามารถแบ่งประเภทของความผิดปกติที่เกี่ยวกับประจำเดือนได้ออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ช่วยให้สังเกตตัวเองได้ง่ายและตรวจเจอปัญหาได้เร็วขึ้น ดังนี้

1. ความผิดปกติที่เกี่ยวกับ “ปริมาณของประจำเดือน”

จำนวนวันที่มีประจำเดือนและปริมาณเลือดที่ออกในแต่ละรอบเดือน สามารถบ่งบอกความสมดุลของฮอร์โมน การทำงานของมดลูก และสุขภาพโดยรวมได้ หากเลือดออกน้อยผิดปกติ มามากเกินไป หรือยาวนานกว่าที่ควร ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะที่ต้องได้รับการตรวจเช็กจากแพทย์เช่นกัน ถ้าปริมาณประจำเดือน  

มาเยอะจนเปียกชื้นจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 1–2 ชั่วโมง หรือมานานกว่า 8 วัน ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คอย่างละเอียด และมีจุดที่ควรสังเกตุอย่างสมํ่าเสมอคือรอบเดือน  ปกติจะห่างกันประมาณ 28 วัน บวกลบ 7 วัน ถ้าประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ อาจสะท้อนปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนได้

2. ความผิดปกติที่แสดงผ่าน “สีของประจำเดือน”

สีของเลือดประจำเดือนสามารถสะท้อนภาวะภายในร่างกายได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮอร์โมน การติดเชื้อ เลือดตกค้าง หรือระบบสืบพันธุ์ที่ทำงานผิดปกติ การสังเกตความเปลี่ยนแปลงของสีจึงช่วย

ให้เรารู้ได้ว่าร่างกายกำลังอยู่ในภาวะปกติหรือกำลังส่งสัญญาณเตือนบางอย่างที่ไม่ควรมองข้าม

สีแดงเข้ม — มักเป็นเลือดที่ตกค้างอยู่ภายใน ซึ่งอาจเกิดจากเลือดไหลช้า ส่วนใหญ่จะพบในช่วงเริ่มรอบประจำเดือนหรือช่วงใกล้หมดรอบประจำเดือน

สีแดงสด — เป็นสีที่หมายถึงสุขภาพปกติ ในกรณีที่ประจำเดือนมาไม่เกิน 7 วัน แต่ถ้านานกว่านั้น อาจจะมีอาการผิดปกติต้องตรวจเช็คกับแพทย์ 

สีชมพู — อาจเกิดจากฮอร์โมนเพศหญิงต่ำ เช่นในคนที่ออกกำลังกายหนัก หรือมีภาวะซีด (โลหิตจาง) 

ซึ่งเกิดจากร่างกายมีเม็ดเลือดแดงน้อย ทำให้เลือดเจือจางกว่าปกติ 

สีแดงอมส้ม — ถ้ามีกลิ่นเหม็น หรือมีหนองอยู่ร่วมด้วย อาจมีการติดเชื้อในช่องคลอด 

สีแดงปนเทา — ถ้ามีอาการคันร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด

สีน้ำตาล — มักเป็นไปได้ว่าเลือดตกค้าง หรือฮอร์โมนเพศหญิงต่ำ แต่ถ้าร่วมกับกลิ่นหรืออาการคันควรปรึกษาแพทย์ 

สีดำ — มักพบในช่วงที่ประจำเดือนเริ่มมาใหม่หรือตอนใกล้หมดประจำเดือน

การสังเกต สีของประจำเดือน และอาการร่วม เป็นเครื่องมือสำคัญในการเช็กสุขภาพของผู้หญิง หากพบว่ามีสีประจำเดือนเปลี่ยนไปจากเดิมชัดเจน มีกลิ่นผิดปกติ มีอาการปวดมาก หรือรอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ 

ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และการรักษาสมดุลฮอร์โมน เช่น การปรับอาหาร การออกกำลังกายที่เหมาะสม การพักผ่อนเพียงพอ และการรับประทานยาคุมอย่างถูกต้อง ตามคำแนะนำของเภสัชกรหรือแพทย์ จะช่วยปรับรอบเดือนให้สม่ำเสมอ พร้อมทั้งลดความผิดปกติเกี่ยวกับประจำเดือนที่อาจเกิดขึ้นได้

Reference
Petcharavej Hospital. (n.d.). Menstruation: Warning signs of women disease that shouldn’t be overlooked. Retrieved November 4, 2025, from https://www.petcharavejhospital.com/en/Article/article_detail/Menstruation-Warning-Signs-Women-Disease

โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต. (2022, 25 พฤษภาคม). สีประจำเดือน ช่วยเตือนอะไรเรา. https://ch9airport.com/th/%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99/