Q&A กินยาคุม มีผลข้างเคียงไหม
ปัจจุบันยาคุมมีหลากหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อมีปริมาณฮอร์โมนแตกต่างกันไป ฮอร์โมนเหล่านี้จะไปรบกวนสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการตั้งครรภ์ จึงช่วยป้องกันและลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้
หลังจากการกินยาคุม หลายคนเกิดอาการ คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย ฯลฯ อาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดจากผลของฮอร์โมนในยาคุมที่มีต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยผลที่เกิดขึ้นมีความแตกต่างไปในแต่ละบุคคล ส่งผลให้พบอาการที่แตกต่างกันไป ดังนี้
“คลื่นไส้อาเจียน” อาการคลื่นไส้อาเจียน เป็นอาการที่พบได้บ่อย หากมีอาการอาจแก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนช่วงเวลากินยา โดยกินหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน หากปรับแล้วอาการยังคงอยู่ สามารถปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อเปลี่ยนชนิดของยาเม็ดคุมกำเนิด (เช่นชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนขนาดต่ำ) หรือใช้วิธีการคุมกำเนิดทางอื่น
“เจ็บคัดตึงเต้านม” สามารถพบได้ในช่วงที่ทาน 2-3 แผงแรก หากอาการยังคงอยู่ สามารถปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อเปลี่ยนชนิดของยาเม็ดคุมกำเนิด (เช่นชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนขนาดต่ำ) หรือใช้วิธีการคุมกำเนิดทางอื่น
“ประจำเดือนกะปริบกะปรอย” อาจเกิดในช่วงแรกของการใช้ยา หรือผู้ที่มักลืมกินยาหรือกินยาไม่ตรงเวลา จึงควรกินยาอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาระดับฮอร์โมน หากอาการยังคงอยู่ สามารถปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อเปลี่ยนชนิดของยาเม็ดคุมกำเนิด (เช่น ชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนในขนาดที่สูงขึ้น) หรือใช้วิธีการคุมกำเนิดทางอื่น
น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือบวมน้ำ สิว ฝ้า ผมร่วง ความต้องการทางเพศลดลง อาการซึมเศร้าเมื่อกินยาเป็นเวลานาน อารมณ์อ่อนไหว เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการกินยาคุม ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อเลือกวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสม
อาการเหล่านี้เป็นผลมาจากระดับฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย แต่อาจก่อให้เกิดความรำคาญใจหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม การกินยาคุมนอกจากจะช่วยคุมกำเนิดแล้วยังมีมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ เช่น ช่วยปรับสภาพฮอร์โมนในร่างกาย ช่วยปรับรอบประจำเดือน ลดอาการปวดประจำเดือน เป็นต้น