Q&A ฝังยาคุมที่ไหนดี
อย่างที่ทราบกันดีว่า ในปัจจุบันการคุมกำเนิดมีหลากหลายวิธี ทั้งแบบชั่วคราว เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาคุมแบบฉีด หรือแบบถาวรอย่างการทำหมัน เช่น การทำหมันชาย (Vasectomy) และการทำหมันหญิง (Female Sterilization) เป็นต้น
การจะเลือกวิธีใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับรายละเอียดความเหมาะสมของแต่ละบุคคล เช่น ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ความต้องการมีบุตร หรือระยะเวลาที่ต้องการคุมกำเนิด
• แล้วจะเลือกวิธีคุมกำเนิดแบบไหนดี? กินหรือฝัง?
การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด (Oral Contraceptive) ถือเป็นการคุมกำเนิดชั่วคราวระยะสั้น หาซื้อง่าย มีประสิทธิภาพสูงหากรับประทานอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ ยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ หากว่าทานไม่ถูกวิธีแล้วก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียได้ เช่น ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย และถ้าลืมบ่อยๆ ก็จะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีหลงลืมง่าย มีตารางเวลาไม่แน่นอน
สำหรับยาคุมแบบฝัง หรือ ยาฝังคุมกำเนิด (Contraceptive Implant) การคุมกำเนิดวิธีนี้จัดเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้เป็นระยะเวลานาน และไม่ยุ่งยากเมื่อเทียบกับการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ
ยาคุมแบบฝัง คือ ฮอร์โมนในกลุ่มโปรเจสติน (Progestin) มีลักษณะเป็นแท่งซิลิโคนขนาดเล็ก สะดวกต่อการฝังและนำออกในภายหลัง จึงทำให้มีรอยแผลเพียงขนาดเล็กๆ เท่านั้น
• การฝังยาคุมกำเนิดมีขั้นตอนอย่างไร?
ขั้นตอนการฝังยาคุมกำเนิด ก็ไม่ได้ยุ่งยาก ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยประมาณ 10 – 15 นาที โดยฝังแท่งคล้ายซิลิโคนยาไว้ที่บริเวณใต้ท้องแขนด้านใน ระหว่างรักแร้และข้อศอกเท่านั้น ในการฝังยาคุมกำเนิด อาจทำให้รู้สึกเจ็บได้เล็กน้อย แต่โดยมากมักมีอุปกรณ์พิเศษรวมถึงมีการฉีดยาชาก่อนเริ่มการฝัง แผลก็มีขนาดเล็กมาก ไม่ต้องเย็บแผลให้ยุ่งยาก ปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ก็เพียงพอแล้ว จึงไม่ต้องห่วงกังวลเรื่องอาการเจ็บแต่อย่างใด
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการฝังยาคือ ภายใน 7 วันแรกของการมีรอบเดือน โดยผู้รับการฝังต้องผ่านการตรวจการตั้งครรภ์แล้วในช่วงเวลาดังกล่าว
การดูแลตัวเองหลังจากฝังยาคุมกำเนิดก็เรียบง่าย เพียงระวังบาดแผลเปียกชื้น งดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้วิธีการคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วยเป็นเวลา 7 วัน จากนั้นเมื่อครบกำหนด 3 หรือ 5 ปีของยาฝังคุมกำเนิดจึงค่อยกลับมาพบแพทย์เพื่อฝังยาคุมใหม่ได้
• ฝังยาคุมกำเนิดที่ไหนดี?
เมื่อเลือกที่จะใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยการฝังยาคุมแล้ว สิ่งที่ต้องพิจารณาอันดับต่อไปคือ ระยะเวลาที่ต้องการ และงบประมาณที่จะใช้ ปัจจัยเหล่านี้จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคลของผู้ต้องการรับบริการ โดยอาจเลือกจากความสะดวกในการเดินทาง หรือราคาของยาคุมกำเนิด
ค่าใช้จ่ายของการฝังยาคุมกำเนิดนั้น จะแตกต่างกันไปแล้วแต่สถานที่ที่ให้บริการ เช่น ในโรงพยาบาลของรัฐบาล การฝังยาคุมราคาจะมีราคาต่ำกว่าโรงพยาบาลเอกชนหรือคลินิก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาลและชนิดของยาคุมที่เลือก
สำหรับวัยรุ่นที่อายุไม่เกิน 20 ปี สามารถเข้ารับบริการฝังยาคุมฟรีได้ที่สถานบริการในเครือข่ายของ สปสช. ของรัฐ หรือของเอกชนที่เข้าร่วมได้ทั่วประเทศ (สามารถตรวจสอบรายชื่อสถานบริการได้ที่ www.nhso.go.th )
สรุปได้ว่า การคุมกำเนิดด้วยวิธีฝังยาคุมกำเนิดนั้น นับเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดแบบระยะเวลานาน สะดวกและเห็นผลเร็ว เมื่อต้องการตั้งครรภ์ก็เพียงนำยาคุมที่ฝังไว้ออกเท่านั้น ก็จะสามารถกลับไปตั้งครรภ์ได้ตามปกติแล้ว ถือเป็นวิธีที่สะดวกง่ายดายต่อชีวิตมากเลยทีเดียว